Taobao กับ Tmall ต่างกันอย่างไร ควรใช้เว็บไหนในการสั่งของจากจีน
Taobao กับ Tmall ต่างกันอย่างไร ควรใช้เว็บไหนในการสั่งของจากจีน
Taobao กับ Tmall ต่างกันอย่างไร ควรใช้เว็บไหนในการสั่งของจากจีน
การนำเข้าสินค้าจากจีนกำลังมาแรงในยุคนี้ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าผ่านทางเว็บไซต์ Taobao ก็ดี การนำเข้าผ่านเว็บไซต์ Tmall ก็ดี แล้วทั้ง 2 เว็บนี้มีความแตกต่างกันอย่างไรทั้งไมเราจึงเห็นป้าย Tmall ในเว็บ Taobao และทำไมเราถึงสมัครสมาชิกผ่านเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่งแต่สามารถใช้งานได้ทั้งหมด วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน
หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่า Taobao กับ Tmall ต่างกันอย่างไร ทำไมอยู่ในเว็บไซต์เดียวกัน โดยเฉพาะเว็บ Taobao ที่เป็นเว็บไซต์ E-Commerce ชื่อดังของจีนแผ่นดินใหญ่ วันนี้เราจะมาอธิบายความแตกต่างของทั้ง 2 เว็บไซต์นี้ว่ามันต่างกันอย่างไร แล้วเราควรใช้เว็บไซต์ไหนในการสั่งของจากจีนจึงจะเหมาะสมที่สุด
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักเบื้องต้นกับทั้ง 2 เว็บไซต์กันก่อน แท้จริงแล้วเว็บ Taobao กับ Tmall เป็นเว็บไซต์ในเครือ Alibaba ด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่มีการแยกออกมาเพื่อใช้ในการจับกลุ่มตลาดที่แตกต่างกัน สร้างจุดขายที่แตกต่างกัน
โดยเว็บไซต์ Taobao เป็นเว็บ E-Commerce ซื้อ-ขายของออนไลน์ในรูปแบบ C2C ย่อมากจาก Customer-to-customer (ผู้บริโภคสู่ตลาดผู้บริโภคเป็นวิธีการใหม่ที่ทำให้ลูกค้าสามารถติดต่อซึ่งกันและกันได้) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน
ส่วนเว็บไซต์ Tmall เป็นเว็บ E-Commerce ซื้อ-ขายของออนไลน์ในรูปแบบ B2C ย่อมากจาก Business-to-Consumer ธุรกิจไปยังผู้บริโภค หรือ การขายผลิตภัณฑ์จากธุรกิจโดยตรงให้กับลูกค้า หลีกเลี่ยงผู้ค้าปลีกหรือบุคคลที่สาม ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนเช่นเดียวกับ Taobao
ทั้ง 2 เว็บไซต์อยู่ภายใต้เครือของ Alibaba จึงทำให้สมัครสมาชิกเพียงเว็บไซต์เดียวก็สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 เว็บไซต์ เป็นความสะดวกในรูปแบบหนึ่งในการใช้งาน นอกจากความต่างในเรื่องของกลุ่มเป้าหมายลูกค้าแล้วยังมีความแตกต่างด้านใดอีกบ้าง
การซื้อขายที่แตกต่างกัน เนื่องจาก Tmall เป็นการค้ารูปแบบ B2C จึงทำให้โดยส่วนใหญ่แล้วร้านค้าในเว็บไซต์จะเป็นเจ้าของแบรนด์ที่ขายสินค้าให้กับลูกค้าโดยตรง ร้านค้าส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ชั้นนำที่สามารถไว้วางใจได้
ในส่วนของเว็บ Taobao นั้นร้านค้าส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าปลีกส่วนบุคคล ร้านค้าเล็ก ๆ ของแต่ละท้องถิ่น รวมทั้งแบรนด์ของท้องถิ่นต่าง ๆ ที่ยังไม่มีชื่อเสียงหรือเปิดร้านเพื่อทำการทดลองตลาด ในลักษณะการขายรูปแบบ C2C นั่นเอง
ในเรื่องของคุณภาพสินค้า ร้านค้าในเว็บไซต์ Tmall มีเงื่อนไขที่กำหนดโดยต้องเป็นร้านค้าแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและเป็นของแท้เท่านั้นถึงจะทำการลงขายในเว็บไซต์นี้ได้ ข้อดีของร้านค้าที่เป็นแบรนด์ชั้นนำก็คือ สินค้ามีมาตรฐานและมีการรับประกันสินค้า
ส่วนร้านค้าใน Taobao ไม่มีเงื่อนไขมากเสียเท่าไหร่ เป็นเว็บไซต์ที่ใคร ๆ ก็สามารถนำสินค้ามาวางขายได้ จึงควบคุมคุณภาพของสินค้าได้ยาก แต่ข้อดีคือ เป็นโอกาสของผู้ค้าปลีกในท้องถิ่นที่จะนำสินค้าเข้ามาขายได้ทำให้สินค้าในเว็บไซต์ Taobao มีราคาถูกมาก หากจะสั่งซื้อในเว็บไซต์นี้จะต้องอาศัยผู้ที่มีประสบการณ์ในการสั่งซื้อสินค้าจากจีนมาก่อน
หากเปรียบเทียบโดยสรุปแล้ว การสั่งซื้อสินค้าจาก Taobao กับ Tmall ต่างกันอย่างไร ควรใช้เว็บไหนในการสั่งของจากจีน โดยร้านค้าในเว็บไซต์ Tmall ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่มีราคาสูงกว่าร้านค้าในเว็บ Taobao เพียงเล็กน้อย แต่มีความน่าเชื่อถือที่มากกว่าและมีการรรับประกันคุณภาพของสินค้าอีกด้วย แต่หากต้องการสั่งซื้อสินค้าที่มีราคาถูกกว่าเว็บไซต์ Tmall โดยการสั่งซื้อจากเว็บไซต์ Taobao แล้วล่ะก็ทาง https://taobao.ttpcargo.com/ แนะนำให้ทำการสั่งซื้อกับผู้ที่มีประสบการณ์ทางด้านการสั่งสินค้าจากเว็บ Taobao จะดีที่สุดเพื่อป้องกันสินค้าด้อยคุณภาพและได้รับสินค้าอย่างปลอดภัยนั่นเอง และนี่ก็เป็นความแตกต่างระหว่างเว็บไซต์ Taobao และ Tmall ที่เราได้นำมาฝากกัน สำหรับใครที่สนใจจะนำเข้าสินค้าจากจีนผ่านทั้ง 2 เว็บไซต์นี้
- สพป.นครราชสีมาเขต7 รับสมัครครูผู้สอน 12 อัตรา
- สพม.เชียงใหม่ เรียกบรรจุครูผู้ช่วย จำนวน 28 อัตรา
- สพม.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ เรียกบรรจุครูผู้ช่วยครั้งที่7 จำนวน 19 อัตรา
- สพป.ฉะเชิงเทรา เขต2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 81 อัตรา
- สพป.เพชรบุรี เขต2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 11 อัตรา
ท่านสามารถติดตามข่าวสารการศึกษา ข่าวเปิดสอบงานราชการ เปิดสอบครูอัตราจ้าง ข่าวเรียกบรรจุ อบรมออนไลน์ โหลดสื่อการสอน หรืออ่านบทความต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของเรา http://krucomonlines.com ได้ตลอดเวลา และสุดท้ายขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา เราจะนำเสนอข้อมูล เนื้อหาดี ๆ มีสาระให้กับทุกท่านอีกครั้งอย่างแน่นอน ขอขอบคุณครับ